วันศุกร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2555

การบ้านอาจารย์กนกวรรณ

 ส่งงานการสร้างสื่อการสอนครั้งที่ 2 (พิมพ์ในWord แนบไฟล์เข้าคลาส)
1.หัวข้อสื่อการสอน
2.ความเป็นมาและความสำคัญของการพัฒนาสื่อการสอน
3.วัตถุประสงค์ของการพัฒนาสื่อการสอน
4.ประโยชน์ของการพัฒนาสื่อการสอน

จับตา! พิพากษาคดี แพรวา 9 ศพ พลิกหรือไม่?



        เริ่มกลับมาเป็นกระแสในสังคมอีกครั้ง สำหรับชื่อของ แพรวา (นามสมมติ) หรือ สาวซีวิควัย 17 ปี ที่ตกเป็น "ผู้ต้องหา"ในเหตุสะเทือนขวัญบนทางยกระดับอุตราภิมุข (ทางด่วนโทลล์เวย์) ถนนวิภาวดีรังสิต มีผู้เสียชีวิตถึง 9 ราย ทั้งหมดล้วนเป็นผู้โดยสารและคนขับรถตู้โดยสารประจำทางที่ประสบเหตุ เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2553
        เหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งเป็นเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 9 ราย และผู้บาดเจ็บอีก 6 ราย ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา ยังคงมีการดำเนินการเรียกร้องหาความยุติธรรมให้กับเหยื่อผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ภายใต้ตัวแทนของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งต้องสูญเสียบุคลากรคนสำคัญและนักศึกษาจากเหตุการณ์ดังกล่าวหลายราย
         สำหรับคดีดังกล่าว ขณะนี้มีการฟ้องร้องคดีทางแพ่ง ซึ่งญาติผู้เสียชีวิตได้ยื่นฟ้องร้องต่อศาล เรียกร้องค่าเสียหาย 11 คดี รวมเป็นค่าชดใช้ทั้งสิ้น 116,327,425.72 บาท อีกทั้งยังมีการฟ้องร้องค่าเสียหายไปยังบิดามารดาและผู้ปกครองของผู้ที่ก่อเหตุอีกด้วย
        นอกจากนี้คดีดังกล่าว ยังมีการฟ้องร้องคดีทางอาญา ในข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของผู้อื่นได้รับความเสียหาย ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ได้รับอันตรายแก่กายสาหัส และได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ รวมทั้งข้อหาขับขี่รถขณะใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งเตรียมนำขึ้นศาลเยาวชนเพื่อพิพากษาในวันที่ 22 มิถุนายน 2555 ภายหลังจาก 1 ปี 6 เดือนของเหตุการณ์ดังกล่าว ยังไม่มีใครทราบว่า..ผลพิพากษาจะออกมาเป็นเช่นไร?
          อย่างไรก็ตาม กลุ่มประชาชนโดยเฉพาะผู้คนในโลกโชเชียลเน็ตเวิร์ก ตามแฟนเพจต่างๆ ที่ร่วมกันพูดถึงประเด็นนี้ กลับมามีความเคลื่อนไหวและเกาะติดผลพิพากษาคดีนี้ แม้ว่าบางส่วนพอที่จะคาดเดาผลการพิพากษาจากศาลเยาวชนครั้งนี้ได้แล้วว่า..จะออกมาเป็นเช่นไร แต่พวกเขาก็ยังคงมีความหวังกับคำว่า"ความยุติธรรม" วันที่ 22 มิถุนายน 2555 นี้

สาว ๆ ระวังไว้! เครื่องสำอางทดลองสกปรกกว่าที่คิด

เครื่องสำอาง

    สาว ๆ หลายคนที่ชื่นชอบการลองเครื่องสำอางทดลองในร้านหรือเคาน์เตอร์เครื่องสำอาง อาจจะรู้สึกสนุกสนานกับการได้ทดลองสีสันของเครื่องสำอางต่าง ๆ ด้วยการป้ายมันไปที่แขนหรือมือ แต่หากได้อ่านงานวิจัยที่เอามาฝากกันวันนี้ เห็นทีว่าจะต้องคิดกันซะใหม่ เพราะจริง ๆ แล้วมันอันตรายกว่าที่คิดเยอะเลยทีเดียว

          เมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา รายการกู๊ด มอร์นิง อเมริกา ได้เปิดเผยผลการทดสอบความสกปรกของเครื่องสำอางทดลองและอุปกรณ์แต่งหน้าตามจุดขายต่าง ๆ พบว่าเครื่องสำอางและอุปกรณ์แต่งหน้าเหล่านี้เต็มไปด้วยแบคทีเรีย เชื้อรา และเชื้อโรคต่าง ๆ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคุณสาว ๆ ผู้รักสวยรักงามมากกว่าที่คุณคิด!

          โดยการทดลองครั้งนี้ ทีมงานได้นำคอตตอน บัดส์ ไปป้ายเครื่องสำอางแต่ละชิ้นที่วางไว้ให้ทดสอบสีสันหน้าเคาน์เตอร์เครื่องสำอางจากทั่วรัฐ 2 รัฐ จากนั้นนำตัวอย่างที่ได้ไปตรวจสอบแบคทีเรียและเชื้อโรค ที่คณะจุลชีววิทยา มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก และพบว่า จำนวนแบคทีเรียและเชื้อโรคที่พบในเครื่องสำอางทดลองแต่ละชิ้น มีจำนวนเทียบเท่ากับแบคทีเรียที่พบบริเวณประตูห้องน้ำสาธารณะ รถเข็นในซูเปอร์มาร์เก็ต ราวบันได และแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์ ขณะที่ตัวอย่างเครื่องสำอางบางชิ้น ก็มีจำนวนแบคทีเรียมากกว่านั้นอีก ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า ทางเคาน์เตอร์เครื่องสำอางไม่เคยเปลี่ยนตัวอย่างเครื่องสำอางเลย จนกว่าเครื่องสำอางจะเสียหาย หรือบางแห่งก็เปลี่ยนตัวอย่างทดลองแค่ปีละครั้งเท่านั้น ทำให้เกิดการสะสมของแบคทีเรียในระดับที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ


เครื่องสำอาง

นอกจากนี้ ผลการทดสอบยังปรากฎออกมาว่า 1 ใน 5 ของกลุ่มตัวอย่างเครื่องสำอางและอุปกรณ์แต่งหน้าเหล่านี้ สกปรกมากพอจะทำให้ยีสต์ รา เจริญเติบโตได้อย่างสบายเลยทีเดียว

          ทางด้านนายฟิลิป เทียร์โน หัวหน้าภาควิชาจุลชีววิทยาแห่งมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก ได้เปิดเผยว่า"แบคทีเรียจำนวนมากเหล่านี้สามารถทำให้คุณป่วยได้ ดังนั้น เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงจากการเจ็บป่วยจากแบคทีเรีย สาว ๆ ก็ควรเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางร่วมกับคนแปลกหน้าโดยไม่จำเป็น"

           และจากคำพูดที่ว่า "ควรเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางร่วมกับคนแปลกหน้า" นี้ แสดงให้เห็นว่า ไม่ใช่แค่เพียงเครื่องสำอางทดลองในเคาน์เตอร์ต่าง ๆ เท่านั้น แต่สาว ๆ ควรหลีกเลี่ยงการแต่งหน้าในร้านเสริมสวย หรือบิวตี้ซาลอนด้วย เพราะเข้าข่ายการใช้เครื่องสำอางร่วมกับคนแปลกหน้าอย่างชัดเจน

           อย่างไรก็ดี การหลีกเลี่ยงการทาเครื่องสำอางลงบนผิวคงจะเป็นเรื่องยากสำหรับสาวรักสวยรักงามทั้งหลาย เพราะมันเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องดูเนื้อและสีสันของเครื่องสำอางเมื่อทาลงบนผิวก่อน จึงค่อยตัดสินใจซื้อ ดังนั้น สาว ๆ ก็ควรใช้วิธีพกพาเจลล้างมือหรือเจลฆ่าเชื้อโรคใส่กระเป๋าไปด้วย แล้วหยิบมันขึ้นมาทาลงบนมือเมื่อลองเครื่องสำอางเสร็จ ส่วนในกรณีที่สาว ๆ อยากจะแต่งหน้ากับช่างในบิวตี้ซาลอนนั้น ก็ควรจะพกเครื่องสำอางและอุปกรณ์ไปให้ช่างจัดการรังสรรค์ให้ดีกว่า เพื่อหลีกเลี่ยงแบคทีเรียบนใบหน้า ซึ่งแน่นอนว่าถ้าเป็นอะไรขึ้นมา ก็ไม่คุ้มกันแหง ๆ 

ขอบคุณ www.postjung.com