วันศุกร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2555

การบ้านอาจารย์กนกวรรณ

 ส่งงานการสร้างสื่อการสอนครั้งที่ 2 (พิมพ์ในWord แนบไฟล์เข้าคลาส)
1.หัวข้อสื่อการสอน
2.ความเป็นมาและความสำคัญของการพัฒนาสื่อการสอน
3.วัตถุประสงค์ของการพัฒนาสื่อการสอน
4.ประโยชน์ของการพัฒนาสื่อการสอน

จับตา! พิพากษาคดี แพรวา 9 ศพ พลิกหรือไม่?



        เริ่มกลับมาเป็นกระแสในสังคมอีกครั้ง สำหรับชื่อของ แพรวา (นามสมมติ) หรือ สาวซีวิควัย 17 ปี ที่ตกเป็น "ผู้ต้องหา"ในเหตุสะเทือนขวัญบนทางยกระดับอุตราภิมุข (ทางด่วนโทลล์เวย์) ถนนวิภาวดีรังสิต มีผู้เสียชีวิตถึง 9 ราย ทั้งหมดล้วนเป็นผู้โดยสารและคนขับรถตู้โดยสารประจำทางที่ประสบเหตุ เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2553
        เหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งเป็นเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 9 ราย และผู้บาดเจ็บอีก 6 ราย ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา ยังคงมีการดำเนินการเรียกร้องหาความยุติธรรมให้กับเหยื่อผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ภายใต้ตัวแทนของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งต้องสูญเสียบุคลากรคนสำคัญและนักศึกษาจากเหตุการณ์ดังกล่าวหลายราย
         สำหรับคดีดังกล่าว ขณะนี้มีการฟ้องร้องคดีทางแพ่ง ซึ่งญาติผู้เสียชีวิตได้ยื่นฟ้องร้องต่อศาล เรียกร้องค่าเสียหาย 11 คดี รวมเป็นค่าชดใช้ทั้งสิ้น 116,327,425.72 บาท อีกทั้งยังมีการฟ้องร้องค่าเสียหายไปยังบิดามารดาและผู้ปกครองของผู้ที่ก่อเหตุอีกด้วย
        นอกจากนี้คดีดังกล่าว ยังมีการฟ้องร้องคดีทางอาญา ในข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของผู้อื่นได้รับความเสียหาย ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ได้รับอันตรายแก่กายสาหัส และได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ รวมทั้งข้อหาขับขี่รถขณะใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งเตรียมนำขึ้นศาลเยาวชนเพื่อพิพากษาในวันที่ 22 มิถุนายน 2555 ภายหลังจาก 1 ปี 6 เดือนของเหตุการณ์ดังกล่าว ยังไม่มีใครทราบว่า..ผลพิพากษาจะออกมาเป็นเช่นไร?
          อย่างไรก็ตาม กลุ่มประชาชนโดยเฉพาะผู้คนในโลกโชเชียลเน็ตเวิร์ก ตามแฟนเพจต่างๆ ที่ร่วมกันพูดถึงประเด็นนี้ กลับมามีความเคลื่อนไหวและเกาะติดผลพิพากษาคดีนี้ แม้ว่าบางส่วนพอที่จะคาดเดาผลการพิพากษาจากศาลเยาวชนครั้งนี้ได้แล้วว่า..จะออกมาเป็นเช่นไร แต่พวกเขาก็ยังคงมีความหวังกับคำว่า"ความยุติธรรม" วันที่ 22 มิถุนายน 2555 นี้

สาว ๆ ระวังไว้! เครื่องสำอางทดลองสกปรกกว่าที่คิด

เครื่องสำอาง

    สาว ๆ หลายคนที่ชื่นชอบการลองเครื่องสำอางทดลองในร้านหรือเคาน์เตอร์เครื่องสำอาง อาจจะรู้สึกสนุกสนานกับการได้ทดลองสีสันของเครื่องสำอางต่าง ๆ ด้วยการป้ายมันไปที่แขนหรือมือ แต่หากได้อ่านงานวิจัยที่เอามาฝากกันวันนี้ เห็นทีว่าจะต้องคิดกันซะใหม่ เพราะจริง ๆ แล้วมันอันตรายกว่าที่คิดเยอะเลยทีเดียว

          เมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา รายการกู๊ด มอร์นิง อเมริกา ได้เปิดเผยผลการทดสอบความสกปรกของเครื่องสำอางทดลองและอุปกรณ์แต่งหน้าตามจุดขายต่าง ๆ พบว่าเครื่องสำอางและอุปกรณ์แต่งหน้าเหล่านี้เต็มไปด้วยแบคทีเรีย เชื้อรา และเชื้อโรคต่าง ๆ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคุณสาว ๆ ผู้รักสวยรักงามมากกว่าที่คุณคิด!

          โดยการทดลองครั้งนี้ ทีมงานได้นำคอตตอน บัดส์ ไปป้ายเครื่องสำอางแต่ละชิ้นที่วางไว้ให้ทดสอบสีสันหน้าเคาน์เตอร์เครื่องสำอางจากทั่วรัฐ 2 รัฐ จากนั้นนำตัวอย่างที่ได้ไปตรวจสอบแบคทีเรียและเชื้อโรค ที่คณะจุลชีววิทยา มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก และพบว่า จำนวนแบคทีเรียและเชื้อโรคที่พบในเครื่องสำอางทดลองแต่ละชิ้น มีจำนวนเทียบเท่ากับแบคทีเรียที่พบบริเวณประตูห้องน้ำสาธารณะ รถเข็นในซูเปอร์มาร์เก็ต ราวบันได และแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์ ขณะที่ตัวอย่างเครื่องสำอางบางชิ้น ก็มีจำนวนแบคทีเรียมากกว่านั้นอีก ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า ทางเคาน์เตอร์เครื่องสำอางไม่เคยเปลี่ยนตัวอย่างเครื่องสำอางเลย จนกว่าเครื่องสำอางจะเสียหาย หรือบางแห่งก็เปลี่ยนตัวอย่างทดลองแค่ปีละครั้งเท่านั้น ทำให้เกิดการสะสมของแบคทีเรียในระดับที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ


เครื่องสำอาง

นอกจากนี้ ผลการทดสอบยังปรากฎออกมาว่า 1 ใน 5 ของกลุ่มตัวอย่างเครื่องสำอางและอุปกรณ์แต่งหน้าเหล่านี้ สกปรกมากพอจะทำให้ยีสต์ รา เจริญเติบโตได้อย่างสบายเลยทีเดียว

          ทางด้านนายฟิลิป เทียร์โน หัวหน้าภาควิชาจุลชีววิทยาแห่งมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก ได้เปิดเผยว่า"แบคทีเรียจำนวนมากเหล่านี้สามารถทำให้คุณป่วยได้ ดังนั้น เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงจากการเจ็บป่วยจากแบคทีเรีย สาว ๆ ก็ควรเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางร่วมกับคนแปลกหน้าโดยไม่จำเป็น"

           และจากคำพูดที่ว่า "ควรเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางร่วมกับคนแปลกหน้า" นี้ แสดงให้เห็นว่า ไม่ใช่แค่เพียงเครื่องสำอางทดลองในเคาน์เตอร์ต่าง ๆ เท่านั้น แต่สาว ๆ ควรหลีกเลี่ยงการแต่งหน้าในร้านเสริมสวย หรือบิวตี้ซาลอนด้วย เพราะเข้าข่ายการใช้เครื่องสำอางร่วมกับคนแปลกหน้าอย่างชัดเจน

           อย่างไรก็ดี การหลีกเลี่ยงการทาเครื่องสำอางลงบนผิวคงจะเป็นเรื่องยากสำหรับสาวรักสวยรักงามทั้งหลาย เพราะมันเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องดูเนื้อและสีสันของเครื่องสำอางเมื่อทาลงบนผิวก่อน จึงค่อยตัดสินใจซื้อ ดังนั้น สาว ๆ ก็ควรใช้วิธีพกพาเจลล้างมือหรือเจลฆ่าเชื้อโรคใส่กระเป๋าไปด้วย แล้วหยิบมันขึ้นมาทาลงบนมือเมื่อลองเครื่องสำอางเสร็จ ส่วนในกรณีที่สาว ๆ อยากจะแต่งหน้ากับช่างในบิวตี้ซาลอนนั้น ก็ควรจะพกเครื่องสำอางและอุปกรณ์ไปให้ช่างจัดการรังสรรค์ให้ดีกว่า เพื่อหลีกเลี่ยงแบคทีเรียบนใบหน้า ซึ่งแน่นอนว่าถ้าเป็นอะไรขึ้นมา ก็ไม่คุ้มกันแหง ๆ 

ขอบคุณ www.postjung.com

วันอาทิตย์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2555

คำขวัญท้ายรถ!!!!

 คำขวัญท้ายรถเต่า 

          - ไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก
          - ขับเร็วด้วยแรงม้า ขับช้าด้วยแรงเต่า
          - ไม่แรง อย่าแซงเต่า
          - ตอนนี้หมดแรง แซงได้เล้ยยยย


 คำขวัญท้ายรถเมล์  
          - ไม่มีท่านเราอด ไม่มีรถท่านเดิน 
          - ห้ามแซง!!

คำขวัญท้ายรถร่วมกตัญญู 
         - ขออภัย....มือใหม่หัดห่อ

คำขวัญท้ายรถ (อะไรไม่รู้) 
          - ใช้หนีราชการเท่านั้น
          - รถจะขับ...โทรศัพท์ก็จะคุย..ถุยย
          - ใช้ในราชการ (ก็) เท่านั้น
          - อย่าโบกเลยจ่า พกมาแค่สองร้อย
          -  ขออภัย รถคันนี้ไม่มีเบรค
          - คันเร่งอยู่ไหนวะ!!!
          - หัวล้านห้ามแซง
          - สิบล้อปลอมตัวมา !!

 คำขวัญท้ายรถเก่า 
         - แอบแซง เพราะแรงน้อย
         - โกรธอ๊ะป่าววว ถูกรถเก่าแซง
         - วันนี้ไม่แรง ให้แซงไปก่อน
         -โตขึ้นหนูจะเป็นเบนซ์
         - มือใหม่หลบไป มือเก่าจะแซง
         - หมาเห่ายังบุบ


ก่อนจะใส่ผ้าอนามัยต้องระวังนะจ๊ะสาวๆ

ขอบคุณ
ที่มา www.postjung.com

วันเสาร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2555

มาทายกัน ว่าพี่โดมหล่อขั้นเทพเขากินกี่เม็ด



โลกตะลึง! อสุจิปลาหมึกแตก ทำป้าเกาหลี 'ตั้งท้องในปาก'

Pic_268667


       หญิงเกาหลีใต้วัย 63 ปี ตั้งครรภ์ในปาก หลังเปิบเมนูปลาหมึก แพทย์พบลูกหมึก 12 ตัว ฝังตามเหงือก ลิ้น กระพุ้งแก้ม ชี้ถุงอสุจิของสัตว์น้ำชนิดดังกล่าว แตกระหว่างรับประทานอาหาร...

       สำนัก ข่าวต่างประเทศ รายงานเมื่อ 16 มิ.ย. ถึงเรื่องราวสุดประหลาดของหญิงสูงอายุวัย 63 ปี จากเกาหลีใต้ ที่เกิดอาการเจ็บแปลบในช่องปากโดยไม่ทราบสาเหตุ หลังรับประทานเมนูเกี่ยวกับปลาหมึก

    ทั้งนี้ เธอบอกกับแพทย์ว่า รู้สึกได้ถึงบางอย่างในปากของเธอ กระทั่งการตรวจพบว่า มีลูกปลาหมึกตัวเล็กอยู่ในปากของเธอมากถึง 12 ตัว ฝังอยู่ตามซอกเหงือก ลิ้น และกระพุ้งแก้ม โดยเอกสารทางวิทยาศาสตร์ จากศูนย์ข้อมูลชีววิทยาแห่งชาติ ในเมืองแมรีแลนด์ สหรัฐฯ ชี้ว่า ถุงน้ำเชื้อของปากหมึกแตกในปากของเธอระหว่างรับประทานอาหารชนิดดังกล่าว จากนั้นอสุจิจึงฝังตัวตามซอกหลืบต่างๆ และขณะนี้ลูกปลาหมึกตัวจิ๋วทั้ง 12 ตัว และเมือกที่ห่อหุ้มถูกนำออกจากช่องปากของหญิงเคราะห์ร้ายเป็นที่เรียบร้อย แล้ว

อนึ่ง เหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวเคยเกิดขึ้นมาก่อนแล้ว โดยเมื่อธ.ค. ปีที่แล้ว หญิงชาวญี่ปุ่นมีอาการเจ็บในช่องปากเช่นเดียวกัน หลังรับประทานปลาหมึกดิบ และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลโทเซอิ แล้วพบว่ามีถุงสเปิร์มของปลาหมึกฝังอยู่ในช่องปากของเธอจริง อย่างไรก็ดี การแพร่พันธุ์ของปลาหมึกน้ำลึกยังคงเป็นปริศนา เนื่องจากยังยากที่จะเข้าใจถึงถิ่นที่อยู่อาศัยและการดำรงชีวิตที่ชัดเจน.





ขอบคุณ: ไทยรัฐ

วันพฤหัสบดีที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ใครคือครู


                    


                   ใครคือครู ครูคือใครในวันนี้     ใช่อยู่ที่ปริญญามหาศาล
          ใช่อยู่ที่เรียกว่า ครูอาจารย์              ใช่อยู่นานสอนนานในโรงเรียน
          ครูคือผู้นำทางความคิด                   ให้รู้ถูกรู้ผิด คิดอ่านเขียน
          ให้รู้ทุกข์รู้ยากรู้พากเพียร                ให้รู้เปลี่ยนแปลงสู้รู้สร้างงาน
          ครูคือผู้ยกระดับวิญญาณมนุษย์          ให้สูงสุดกว่าสัตว์เดรัจฉาน
          ครูคือผู้สั่งสมอุดมการณ์                  มีดวงมานเพื่อมวลชนใช่ตนเอง
          ครูจึงเป็นนักสร้างผู้ยิ่งใหญ่               สร้างคนจริงสร้างคนกล้าสร้างคนเก่ง
          สร้างคนให้ได้เป็นตัวของตัวเอง          ขอมอบเพลงนี้มาบูชาครู

กระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว


     กระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงพระราชทานแก่ครูอาวุโสประจำปี 2522 เมื่อ 28 ตุลาคม พ.ศ.2523 ณ ศาลาดุสิดาลัยสวนจิตรดาพระราชวังดุสิต ความตอนหนึ่งว่า

                  “...ครูที่แท้นั้นเป็นผู้ทำแต่ความดี คือต้องหมั่นขยันและอุสาหะพากเพียรต้องเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และเสียสละต้องหนักแน่น อดกลั้นและอดทน ต้องรักษาวินัย... ต้องปลีกตัวปลีกใจจากความสะดวกสบายและความสนุกรื่นเริงที่ไม่สมควรแก่เกียรติภูมิของตน... ต้องซื่อสัตย์รักษาความจริงใจต้องเมตตาหวังดีต้องวางใจเป็นกลางไม่ปล่อยไปตามอำนาจอคติ...”

วันอังคารที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2555

สมรรถภาพพื้นฐานของครู ด้านคุณลักษณะและเจตคติ


  คุณลักษณะของครูที่ดีมีหลายประการ และมีหลายทัศนะ
                  ทัศนะแรกเป็นกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงพระราชทานแก่ครูอาวุโสประจำปี 2522 เมื่อ 28 ตุลาคม พ.ศ.2523 ณ ศาลาดุสิดาลัยสวนจิตรดาพระราชวังดุสิต ความตอนหนึ่งว่า
                  “...ครูที่แท้นั้นเป็นผู้ทำแต่ความดี คือต้องหมั่นขยันและอุสาหะพากเพียรต้องเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และเสียสละต้องหนักแน่น อดกลั้นและอดทน ต้องรักษาวินัย... ต้องปลีกตัวปลีกใจจากความสะดวกสบายและความสนุกรื่นเริงที่ไม่สมควรแก่เกียรติภูมิของตน... ต้องซื่อสัตย์รักษาความจริงใจต้องเมตตาหวังดีต้องวางใจเป็นกลางไม่ปล่อยไปตามอำนาจอคติ...”
คุณลักษณะของครูที่ดี 10 ประการ
        1. ความมีระเบียบวินัย หมายถึง ความประพฤติ ทั้งทางกายและวาจาและใจ ที่แสดงถึงความเคารพในกฎหมาย ระเบียบประเพณีของสังคม และความประพฤติที่สอดคล้องกับอุดมคติหรือความหวังของตนเอง โดยให้ยึดส่วนรวมสำคัญกว่าส่วนตัว
       2. ความซื่อสัตย์สุจริตและความยุติธรรม หมายถึง การประพฤติที่ไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน ไม่เอาเปรียบ หรือคดโกงผู้อื่นหรือส่วนรวม ให้ยึดถือหลักเหตุผล ระเบียบแบบแผนและกฎหมายของสังคมเป็นเกณฑ์
     3. ความขยัน ประหยัด และยึดมั่นในสัมมาอาชีพ หมายถึง ความประพฤติที่ไม่ทำให้เสียเวลาชีวิตและปฏิบัติกิจอันควรกระทำให้เกิดประโยชน์แก่ตนและสังคม
    4. ความสำนึกในหน้าที่และการงานต่าง ๆ รวมไปถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและประเทศชาติ หมายถึง ความประพฤติที่ไม่เอารัดเอาเปรียบสังคมและไม่ก่อความเสียหายให้เกิดขึ้นแก่สังคม
    5. ความเป็นผู้มีความคิดริเริ่ม วิจารณ์และตัดสินอย่างมีเหตุผล หมายถึง ความประพฤติในลักษณะสร้างสรรค์และปรับปรุงมีเหตุมีผลในการทำหน้าที่การงาน
     6. ความกระตือรือร้นในการปกครองในระบอบประชาธิปไตย มีความรักและเทิดทูน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ หมายถึง ความประพฤติที่สนับสนุนและให้ความร่วมมือ ในการอยู่ร่วมกันโดยยึดผลประโยชน์ของสังคมให้มากที่สุด
     7. ความเป็นผู้มีพลานามัยที่สมบูรณ์ทั้งทางร่างกายและจิตใจ หมายถึง ความมั่นคงและจิตใจ รู้จักบำรุงรักษากายและจิตใจให้สมบูรณ์ มีอารมณ์แจ่มใสมีธรรมะอยู่ในจิตใจอย่างมั่นคง
     8. ความสามารถในการพึ่งพาตนเองและมีอุดมคติเป็นที่พึ่ง ไม่ไว้วานหรือขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นโดยไม่จำเป็น
     9. ความภาคภูมิและการรู้จักทำนุบำรุงศิลปะ วัฒนธรรม และทรัพยากรของชาติ หมายถึง ความประพฤติที่แสดงออกซึ่งศิลปะและวัฒนธรรมแบบไทย ๆ มีความรักและหวงแหนวัฒนธรรมของตนเองและทรัพยากรของชาติ
    10. ความเสียสละ และเมตตาอารี กตัญญูกตเวที กล้าหาญ และความสามัคคีกัน หมายถึง ความประพฤติที่แสดงออกถึงความแบ่งปัน เกื้อกูลผู้อื่น ในเรื่องของเวลากำลังกายและกำลังทรัพย์

เจตคติของครูที่มีต่อวิชาชีพครู


                  ผู้ประกอบาอาชีพครูต้องมีคุณลักษณะและคุณสมบัติที่สำคัญหลายประการ ผู้ประกอบอาชีพครูควรมีเจตคติที่ดีต่อคุณลักษณะและคุณสมบัติที่สำคัญๆ นั้นๆ ด้วย จึงจะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานก่อให้เกิดผลดีต่อสังคมและประเทศชาติ เจตคติที่ดีต่อคุณลักษณะและคุณสมบัติของอาชีพครูมีหลายประการซึ่งอาจจำแนกได้ดังต่อไปนี้คือ
     1.เจตคติที่ดีต่อลักษณะอาชีพของครู ผู้ประกอบอาชีพครูต้องมีความเสียสละ มีเมตตากรุณา และต้องมีความอดทนอดกลั้นเป็นอย่างยิ่ง ครูควรมีความภูมิใจในอาชีพของตน ไม่ควรคิดว่าต่ำต้อยหรือด้อยเกียรติในสังคม
    2.เจตคติที่ดีต่อลักษณะการเป็นครู ผู้ประกอบอาชีพครูควรเป็นผู้รอบรู้ทันสมัย ขยันขันแข็ง มีสุขภาพสมบูรณ์ แข็งแรง
     3.เจตคติที่ดีต่อนักเรียน ผู้ประกอบอาชีพครูต้องมีความรู้สึกที่ดีต่อเด็ก รักและเอ็นดูเด็ก ให้อภัยและช่วยเหลือเด็กอยู่เสมอ
     4.เจตคติที่ดีต่อการเรียนการสอน ผู้ประกอบอาชีพครูต้องมีความรู้สึกรักการสอน มีการเตรียมการสอนที่ดี มีเทคนิคและมีวิธีการสอนที่หลากหลายให้นักเรียนมีความรู้ และมีความเข้าใจในเนื้อหาวิชาอย่างกว้างขวางชัดเจน พร้อมทั้งมีการปรับปรุงการสอนอยู่เสมอ
     5.เจตคติที่ดีต่อความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานของครู อาชีพครูทุกอาชีพมีความเจริญก้าวหน้าทั้งสิ้น ถ้าผู้ประกอบอาชีพมีความตั้งใจอย่างเต็มกำลังความสามารถและยังผลให้งานนั้นสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีอย่างมีประสิทธิภาพ
                เจตคติที่ดีต่อวิชาชีพครูมีความสำคัญบุคคลที่เป็นครู และผู้ศึกษาวิชาชีพครูเพื่อจะไปเป็นครูในอนาคต เพราะเมื่อบุคคลเกิดเจตคติที่ดีต่องานของตนหรือพอใจในงานที่ตนทำอยู่ ย่อมทำให้ทำงานอย่างมีความสุข และมีความตั้งใจในการทำงานอย่างดีที่สุด ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่า เจตคติที่ดีวิชาชีพครูมีความสำคัญมากดุจเดียวกันกับโครงเหล็กภายในที่ช่วยยึดอาคารให้มั่นคงแข็งแร


จรรยาบรรณของครู

             มีอยู่ 9 ข้อจ๊ะ


             1. ครูต้องรักศิษย์และเมตตาศิษย์ โดยให้ความเอาใจใส่ช่วยเหลือส่งเสริม ให้กำลังใจ ในการศึกษาแก่ศิษย์โดยเสมอหน้า
             2. ครูต้องอบรม สั่งสอน ฝึกฝน สร้างเสริมความรู้ ทักษะและนิสัยที่ถูกต้องดีงาม ให้แก่ศิษย์อย่างเต็มความสามารถด้วยความบริสุทธิ์ใจ
             3. ครูต้องประพฤติ ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ศิษย์ทั้งทางกาย วาจา และจิตใจ
             4. ครูต้องไม่กระทำตนเป็นปฏิปักษ์ต่อความเจริญทางกาย สติปัญญา จิตใจ อารมณ์ และสังคมของศิษย์

             5. ครูต้องไม่แสวงหาประโยชน์อันเป็นอามิสสินจ้างจากศิษย์ในการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ  และไม่ใช้ศิษย์กระทำการใดๆ อันเป็นการหาประโยชน์ให้แก่ตนโดยมิชอบ
             6. ครูย่อมพัฒนาตนเองทั้งในด้านวิชาชีพ ด้านบุคลิกภาพ และวิสัยทัศน์ ให้ทัน ต่อการพัฒนาทางวิทยาการเศรษฐกิจ  สังคมและการเมืองอยู่เสมอ
             7. ครูย่อมรักและศรัทธาในวิชาชีพครู  และเป็นสมาชิกที่ดีขององค์กรวิชาชีพครู
           
 8. ครูพึงช่วยเหลือเกื้อกูลครูและชุมชนในทางสร้างสรรค์
             9. ครูพึงประพฤติ  ปฏิบัติตน  เป็นผู้นำในการอนุรักษ์และพัฒนาภูมิปัญญา  และวัฒนธรรมไทย

ท่องกันให้ขึ้นใจไปเล้ย

Facebook Phone คอนเซ็ปต์สมาร์ทโฟนสายพันธุ์โซเชียลเน็ตเวิร์ก




เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก yankodesign

          อีกหนึ่งเป้าหมายของเฟซบุ๊ก ที่เคยมีข่าวลือหลุดออกมาหลายครั้งเกี่ยวกับการสร้างโทรศัพท์ภายใต้แบรนด์เฟซบุ๊กเอง ซึ่งข่าวลือดังกล่าวเปิดเผยถึงแผนการของเฟซบุ๊กที่นำทีมโดย มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ที่กำลังดึงตัวอดีตวิศวกรด้านซอฟท์แวร์และฮาร์ดแวร์จากแอปเปิลเพื่อให้มาช่วยงานด้านการผลิตสมาร์ทโฟนสายพันธุ์โซเชียลเน็ตเวิร์กตัวนี้ ให้กลายเป็นความจริง ส่วนจะจริงหรือไม่นั้น ต้องรอดูกันต่อไ

           ถึงแม้ตอนนี้สมาร์ทโฟนสายพันธุ์โซเชียลเน็ตเวิร์กของเฟซบุ๊กจะยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง แต่ก็ได้มีดีไซน์เนอร์ใจดี ออกแบบคอนเซ็ปต์สมาร์ทโฟนตัวนี้ ให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ภายใต้คอนเซ็ปต์ที่มีชื่อว่าFacebook Phone ผลงานการออกแบบชิ้นนี้ถูกถ่ายทอดผ่านจินตนาการของดีไซน์เนอร์ที่ชื่อว่า Michal Bonikowski จากเว็บไซต์ mindsailors.com ได้ออกแบบคอนเซ็ปต์ Facebook Phone ที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 4.2 นิ้ว พร้อมกล้องถ่ายภาพด้านหน้า 5 ล้านพิกเซลและกล้องถ่ายภาพด้านหลัง 8 ล้านพิกเซล ส่วนตัวเครื่องใช้สีเดียวกับหน้าเว็บเฟซบุ๊กได้ลงตัวอย่างสวยงาม ถ้าพร้อมแล้วมาติดตามชมภาพคอนเซ็ปต์ Facebook Phone ทั้งหมดกันเลย








Facebook Phone




Facebook Phone












                อย่าลืมนะค่ะว่านี่เป็นเพียงคอนเซ็ปต์ที่ถูกออกแบบผ่านไอเดียของดีไซน์เนอร์คนนี้เท่านั้น ยังไม่มีข้อมูลที่ยืนยันชัดเจนว่าเฟซบุ๊กจะมีการผลิตสมาร์ทโฟนภายใต้แบรนด์ของตัวเองหรือไม่ เรื่องนี้คงต้องติดตามและรอดูกันต่อไป ถ้ามีข่าวความคืบหน้าเพิ่มเติมเราจะรีบนำมารายงานให้ทราบทันที

วันอาทิตย์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ประโยชน์ของส้มตำ



ประโยชน์ของส้มตำ

                ส้มตำเป็นอาหารยอดนิยมประเภทหนึ่ง  ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันมีรสชาติอร่อยและถูกปากคนไทยหลายๆ คน ทั่วทุกภาคของประเทศไทย  แต่จะมีใครรู้บ้างว่านอกจากความอร่อยแล้ว  ส้มตำมีประโยชน์อย่างอื่นอีกหรือไม่       


                ส้มตำนั้นเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการและมีสรรพคุณทางยา คุณค่าจากพืชสมุนไพรที่เป็นองค์ประกอบในส้มตำ  อาทิ

  มะละกอ เป็นยานำบำรุงน้ำนม ขับพยาธิ แก้บิด แก้เลือดออกตามไรฟัน แก้ริดสีดวงทวาร ช่วยย่อยอาหาร ขับน้ำดี น้ำเหลือง 

 มะเขือเทศ รสเปรี้ยว เป็นผักที่ใช้แต่งสีและกลิ่นอาหาร ช่วยระบาย บำรุงผิว 
 มะกอกรสเปรี้ยว ฝาด หวาน แก้โรคธาตุพิการเพราะน้ำดีไม่ปกติแก้บิด แก้โรคเลือดออกตามไรฟัน ผลสุกทำให้ชุ่มคอ แก้กระหายน้ำ 

พริกขี้หนู รสเผ็ดร้อนช่วยเจริญอาหาร ขับลม ช่วยย่อย 
 กระเทียม รสเผ็ดร้อน ขับลมในลำไส้ แก้ไอ ขับเสมหะ ช่วยย่อยอาหาร แก้โรคผิวหนัง น้ำมันกระเทียมมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญของเชื้อรา แบคทีเรีย และไวรัส ลดน้ำตาลในเลือด ลดไขมันในหลอดเลือด 
มะนาว เปลือกผลรสขม ช่วยขับลมน้ำในลูกรสเปรี้ยวแก้เสมหะ แก้ไอ แก้เลือดออกตามไรฟัน 
ฟอกโลหิต 
ผักแกล้มต่างๆ ได้แก่ ถั่วฝักยาว รสมันหวาน ช่วยกระตุ้นการทำงานของกะ เพาะลำไส้ บำรุงธาตุดิน 
กะหล่ำปลีรสจืดเย็น กระตุ้นการทำงานของกระเพาะลำไส้ บำรุงธาตุไฟ 
ผักบุ้ง รสจืดเย็น ต้มกินไข้เป็นยาระบายทำให้อาเจียน เนื่องจากพิษของฝิ่นและสารหนู 
กระถิน รสมัน แก้ท้องร่วง สมานแผล ห้ามเลือด ถ่ายพยาธิ

*****ไปตลาดนัดทีไรเห็นร้านส้มตำขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ก็เลยนำเกร็ดความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับส้มตำมาฝากเพื่อน ๆ กันคะ****

จีนเผชิญพายุลูกเห็บขนาดเท่าไข่ไก่




ที่มา : www.postjung.com

นี่หรือรูปแบบเครื่อง IPAD MINI จาก APPLE?


นี่หรือรูปแบบเครื่อง iPad mini จาก Apple ??? international update hot update



เป็นข่าวลือที่ยาวที่สุดเลยกระมั้งสำหรับ iPad mini ที่มีมานานเหลือเกิน แน่นอนว่าข่าวลือมีออกมาเรื่อยๆไม่แพ้ข่าวลือของ iPhone 5 เลย ซึ่งก่อนหน้านี้เองข่าวของ iPad mini คือมีการเล่นในเรื่องของขนาดหน้าจอที่สุดท้ายมีข่าวมากสุดคือขนาด 7.85 นิ้ว ในทางกลับกันก็คือว่าช่วงสัปดาห์นี้เองมีข่าวลือของ iPhone 5 ออกมามากมาย ทั้งเรื่องขนาดจอและตัวฝาหลังของเครื่อง ซึ่งงานนี้ก็เลยถูกเอามาโยงกับ iPad mini ก็เพราะว่าดังภาพที่เห็นก็คือมันเหมือนหรือคล้ายๆกับฝาหลังของ iPhone 5 ที่หลุดออกมาเลยยังไงยังงั้น

ดังภาพจะเห็นว่าตัวฝาหลังของ iPad mini ที่เขาอ้างนั้นมีรูปแบบช่องลำโพง Speaker นั้นคล้ายๆกับฝาหลังของ iPhone 5 ที่หลุดออกมาเลย รวมถึง Dock Connector ก็คล้ายๆกัน เพราะมีขนาดเล็กลง แต่งานนี้มีข่าวที่น่ามึนกว่านั้นอีกเพราะรายงานนี้มีการระบุว่าหน้าจอของเครื่องจะมีขนาด 7.58 นิ้วไม่ใช่ 7.85 ตามที่เป้นข่าว เรียกว่ากลับเลขกันซะงั้น อย่างไรก็ตามถ้ามันมีจริงขนาดก็ไม่ต่างกันเท่าไร 7.58 กับ 7.85 เนี่ย



นี่หรือรูปแบบเครื่อง iPad mini จาก Apple ??? international update hot update



ที่มา: PocketNow
iPad First Generation
Apple iPad Wi-Fi + 3G



Apple iPad 2 Wi-Fi + 3G

iPad III
Apple iPad 3 Wi-Fi + 4G

The Next iPad? .....

ที่มา : www.postjung.com

มันน่ากลัว




หลุมยุบ ถนนยุบ จากทั่วทุกมุมโลก รวมภาพหลุมยุบ ภาพถนนยุบ จากทั่วทุกมุมโลก น่ากลัวจริงๆ
อ้างอิง  http://world.kapook.com